beylikdüzü escort seks hikayesi beylikdüzü escort beylikdüzü escort antalya escort beylikdüzü escort esenyurt escort avcılar escort istanbul escort antayla escort beykent escort beylikdüzü escort beylikdüzü escort beylikdüzü escort mersin escort porno seyret porno seyret ฝรั่งคิดว่าพุทธศาสนาเป็นปรัชญา ? – กองนโยบายและแผน

ฝรั่งคิดว่าพุทธศาสนาเป็นปรัชญา ?

            “หลายศาสนาเป็นแค่ปรัชญา แต่พุทธศาสนาไม่ใช่ปรัชญาอย่างวิทยาศาสตร์ยังขึ้นอยู่กับกาลเวลา แต่พุทธศาสนาเป็นสัจธรรมที่ไม่มีเงื่อนไขของกาลเวลา พิสูจน์ได้ตลอดเวลา ปฏิบัติได้ และเมื่อปฏิบัติแล้ว รู้ได้ด้วยตัวเอง ชาวตะวันตกตื่นเต้นกับพุทธศาสนามากเลยมีการเรียนการสอนพุทธศาสนามาก แต่พวกเราชาวพุทธหรือชาวเอเชียพอเห็นเขาศึกษาก็ตื่นเต้น ฮือฮาว่าเขาจะมาเป็นพุทธ ซึ่งไม่ใช่ ที่เขาศึกษาไม่ได้จะไปเป็นชาวพุทธ แต่ศึกษาเพื่อแก้ไขปัญหาชีวิตประจำวัน ฝรั่งใช้ทุกวิทยาการที่มีอยู่เพื่อพิสูจน์ ยิ่งพิสูจน์ยิ่งปฏิเสธไม่ออก ยิ่งพิสูจน์ยิ่งเจอเพชร เช่นเมื่อ ๑๐ ปีก่อน (ปี ค.ศ.๒๐๐๐) องค์การอนามัยโลก (WHO) ศึกษาวิจัยทั่วโลกว่าพัฒนาการของโลกในอนาคตจะเป็นอย่างไรและมีโรคใดบ้าง เพื่อดักปัญหาได้ถูก ปรากฏผลว่าโรคร้ายแรงที่สุดในปี ค.ศ. ๒๐๒๐ ไม่ใช่มะเร็งหรือเอดส์ แต่กลายเป็นโรคเครียด เพราะวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ฝรั่งพยายามคันคว้ายาเพื่อแก้ไข แต่พบว่า “ยา” รักษาโรคเครียดทั้งหลายแหลรักษาโรคได้แค่เพียงชั่วคราว เพราะความเครียดเกิดจากวิถีชีวิตที่เราสร้างกันขึ้นมาเองไปๆ มาๆ ฝรั่งที่ศึกษาพุทธศาสนาก็เลยทดลองใช้วิธี การเจริญสติ (mindfulness) จนทางการแพทย์นำไปพัฒนาต่อเรียกว่า “MBCT” หรือ “Mindfulness-based Cognitive Therapy”คือการบำบัดจิตบนพื้นฐานของการเจริญสติ หรือการบำบัดจิตแก้ไขเรื่องความเครียด ตอนนี้วงการแพทย์ใช้การเจริญสติเป็นพื้นฐานในการแก้ไขปัญหาทุกอย่าง พอทดลองด้วยการเจริญสติ ปรากฏว่าสามารถแก้ไขโรคต่าง ๆ หายเป็นปลิดทิ้ง ทั้งโรคจิต โรคเครียด โรคมะเร็งสารพัดโรคหายหมด ด้วยเหตุนี้เขาจึงศึกษาลึกลงไปว่าทำไมแค่การนั่งสมาธิถึงสามารถแก้ไขในสิ่งที่ “ยา” สมัยใหม่แก้ไขไม่ได้ ฝรั่งพบว่า “change your mind, change your brain” คือ ฝึกจิตแล้วเปลี่ยนสมองได้ ด้วยเหตุนี้ทางวิทยาศาสตร์พยายามศึกษาคำว่า”จิต (mind)” มากขึ้นเป็นลำดับ

            แต่ฝรั่งเขาไม่มีคำว่า mind เขามีแต่ soul (อัตตา/ตัวตน) แต่พุทธศาสนาเชื่อว่าไม่มีตัวตน แต่มีจิต (mind) ที่สามารถบังคับตัวตนให้เป็นไปตามที่เราต้องการได้ จิตเป็นสิ่งใหม่สำหรับฝรั่ง แต่ของเราพูดถึงจิตกันมานานกว่า ๒๕๐๐ ปีแล้ว เรารู้ว่าตัวตน (soul)ดำเนินตามจิต พอฝรั่งมาเจอจิต คือการรับรู้ทางพุทธศาสนา นั่นคือ การใช้อายตนะไปกระทบกับสิ่งข้างนอกแล้วเราทำปฏิกิริยากับสิ่งเหล่านั้นอย่างไร ถ้าเรามีความรู้ความเข้าใจหรือมีตัว “ปัญญา”มาก ปฏิกิริยาต่อสิ่งนั้นก็ออกมาในทางฉลาด แต่ถ้าเราปัญญาน้อยเราก็จะกลายเป็นเหยื่อกับสิ่งที่มากระทบ นี่คือสิ่งที่พุทธศาสนาสอนมานานแล้ว

            พุทธศาสนาจึงกลายเป็นวิชาพื้นฐานที่ทุกคนต้องเรียน อาตมาเคยถามนักศึกษาที่ลงเรียนกับอาตมา คือที่มหาวิทยาลัยซานตาคลาราที่อาตมาสอนอยู่เป็นมหาวิทยาลัยคริสตัง แต่คอร์สพุทธศาสนากลับเป็นคอร์สที่ป็อบปูลาร์มากที่สุด เวลามหาวิทยาลัยประกาศว่าอาตมาจะไปสอนเทอมไหน (วิชาเลือก ๕ หน่วยกิต)ปรากฏว่านักศึกษาลงชื่อเรียนเต็มคลาส ๓๕ คนภายใน ๑๕ นาที จนบาทหลวงที่เป็นเพื่อนกันถามว่าคุณมีดีอะไร ทำไมถึงเต็มเร็วเพราะของเขาขยายเวลาแล้วขยายเวลาอีกก็ยังไม่เต็ม อาตมาเคยเจอถึงขนาดที่นักศึกษามาร้องไห้อ้อนวอนขอเข้าเรียน ด้วยความอยากรู้เลยถามนักศึกษาว่า “ทำไมพวกคุณถึงคลั่งวิชาพุทธศาสนากันมาก” เขาตอบว่า “วิชานี้ขาดไม่ได้เลย ถ้าขาดวิชานี้ ทำอะไรไม่ได้” อย่างฝรั่งที่เรียนวิชาเอกจิตวิทยา บอกว่าถ้าไม่ได้เรียนพุทธศาสนา เท่ากับไม่รู้เรื่องจิตวิทยาเลย ตอนนี้กลายเป็นว่านักศึกษาที่เรียนวิชาทางแพทย์ ก็ต้องมาเรียนวิชานี้เป็นพื้นฐานก่อน ถ้าไม่ได้เรียน เท่ากับวิชาอื่นๆ ที่เรียนอยู่ไม่สมบูรณ์”

แหล่งที่มา หนังสือพระธรรมศากยวงศ์วิสุทธิ์ทรรศน์ หน้าที่ ๖๓ – ๖๕

พิมพ์ถวายเป็นมุทิตานุสรณ์ โดย องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (พ.ส.ล.) พุทธศักราช ๒๕๖๔